iMovie
iMovie : เริ่มใช้งาน
จิ้มที่ไอคอน
iMovie เมื่อแอพถูกโหลดขึ้นมาจะได้หน้าตาเช่นนี้
ลักษณะการใช้งานที่ชอบที่สุด คือ การถือแบบแนวนอน จะพบว่า จะขึ้น project ล่าสุดเอาไว้ให้ซึ่งสามารถจิ้มเข้าไปเล่นคลิปหรือแก้ไขตัดต่อได้เลย
[Help] วิธีการตัดต่อที่สามารถเข้าไปอ่านได้ทุกเมื่อ
เมื่อต้องการจะรู้ว่า เราสามารถใช้งานตัดต่อคลิปได้อย่างไรบ้าง
[Add Project] เพิ่มโปรเจ็กต์ใหม่
ซึ่งสามารถเลือกธีมได้ก่อนที่จะเข้าไปสู่ขั้นตอนการตัดต่อจริง
[Export] สำหรับจะแปลงจากคลิปที่ถูกตัดต่อให้เป็นไฟล์คลิปที่จะใช้งานจริง
[Play] เล่นคลิปของโปรเจ็กต์ที่กำลังแสดงอยู่
[Delete] ลบโปรเจ็กต์ที่เคยสร้างไว้นั้นทิ้งไป
iMovie : ตัดต่อ
ลักษณะการใช้งานนั้น
ไม่แตกต่างจากโปรแกรมตัดต่อวิดีโอทั่วไป คือ มีลักษณะเป็นไทม์ไลน์ แต่จะลดรูปลงมาให้พอดีกับหน้าจอมือถือ
ณ จุดนี้
เราสามารถแก้ไขธีมได้ตลอดเวลา , Preview คลิปที่ได้จากการตัดต่อ, เพิ่มเสียงประกอบจากเพลงที่มีอยู่ในตัวเครื่อง,
เข้าไปเลือกคลิปหรือรูปภาพแล้วเพิ่มเข้ามาในโปรเจ็กต์
หรือจะถ่ายคลิปสดๆ เลยก็ยังได้ สามารถจัดเรียงคลิปได้ตามต้องการ, ตัด (split) คลิปในจุดที่ต้องการ, ใส่ข้อความกำกับและตำแหน่งที่เกิดเหตุการณ์ในแต่ละคลิปได้, ลากคลิปออกไปเพื่อทิ้งก็ได้ หรือจะตั้งค่า transition ระหว่างคลิปก็ได้เช่นเดียวกัน
iMovie : Export
อีกขั้นตอนสำคัญสำหรับการตัดต่อคลิปวิดีโอ
ก็คือการ export เอาสิ่งที่ได้ตัดต่อไว้ออกมาเป็นไฟล์วิดีโอที่พร้อมสำหรับการอัพโหลด
ซึ่งแอพนี้ก็มีให้เลือกไว้ 3 ขนาดด้วยกัน
iMovie : อัพโหลด
ขั้นสุดท้าย
ตัดต่อเสร็จ มันจะเก็บไฟล์ไว้ให้ใน Camera Roll ซึ่งคุณสามารถเข้าไปดูได้จากปุ่ม Photo ได้อยู่แล้ว
เมื่อจิ้มปุ่ม
Export ก็จะมาเจอทางเลือก ว่าจะทำอะไร จะส่งเมล์,
ส่ง MMS หรือจะอัพโหลดขึ้น Youtube ซึ่งแน่นอนว่า ในกรณีของเรา เราเลือกจะอัพขึ้นแอ็คเคาท์บน Youtube พอจิ้มเลือกแล้ว จะได้หน้าตาแบบนี้
ขั้นตอนที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก
หากไม่เคยตั้งค่าเลย ระบบก็จะถามหา User และ Password หลังจากนั้น ก็จัดการใส่ค่าซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการอัพโหลดผ่านหน้าเว็บปกติ
เลือกเอาได้ว่าจะใช้ความละเอียดแบบ Standard Definition หรือ
HD ซึ่งระยะที่ใช้ในการอัพโหลดก็แตกต่างกันไปด้วย